สรุุปงาน WWDC Keynote 2011 ที่ผ่านมาครับ

ikok's picture
10285
posts

สรุปจากงาน keynote เมื่อคืนวันที่ 7 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมาครับ

NOTE:

  1. สามารถเข้าไปดู keynote ย้อนหลังได้จาก link นี้ http://events.apple.com.edgesuite.net/11piubpwiqubf06/event/
  2. งาน keynote นี้จะแบ่งออกเป็นช่วง ๆ พูดถึง product หลาย ๆ ตัวแยกกันไป

รายละเอียดงานมีดังนี้....

Lion

  • ตลาด PC (Personal Computer: คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล) ในภาพรวมเติบโต -1% แต่เครื่อง Mac โตขึ้น 28%
  • อัตราการเติมโตของ Mac สวนทางกับภาพรวมในตลาดแบบนี้มา 5 ปีแล้ว
  • 250 Features ใหม่ใน Lion, มีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 10 อย่างตามรายการด้านล่างนี้ครับ
  • Key Feature#1 - Multi-Touch Guesture:
    • ปรับปรุงการใช้งาน multi-touch ในส่วนต่าง ๆ ของ Lion
    • ตอนที่พูดถึงเรื่องนี้อยู่คุณ ฟิล ชิเลอร์ได้พูดถึงตัว scroll bar ที่จะหายไป และแสดงตัวเข้ามาใหม่เมื่อเราเลื่อนหน้าเว็บขึ้น - ลง เหมือนที่ทำใน iOS ครับ
    • มีการเดโม แสดงการ zoom เข้าออกใน Safari ด้วยการใช้สองน้ิวลากเข้าออกเข้าหากัน หรือการ double tap ที่จะเป็นการ zoom ให้พอดีเนื้อหาที่ต้องการได้ เหมือนการ zoom หน้าเว็บใน iOS ครับ
    • ใน Safari ใช้สองนิ้วกวาดไปซ้าย - ขวา เป็นการย้อนกลับไปหน้าเว็บที่เคยเข้าแล้ว และไม่ต้องโหลดขึ้นมาใหม่ครับ เป็นการเลื่อนหน้าเว็บนั้นไปมา (นึกภาพประมาณการทำงานของ twitter app บน iPad ครับ)
  • Key Feature#2 - Full Screen App:
    • เป็นระดับ system wide ครับ จะทำงานเต็มจอได้กับทุก ๆ app เพราะทาง Apple เปิดโอกาสให้นักพัฒนาทำแบบนั้นได้กับ app ตัวเองแล้ว และไม่จำเป็นต้อง customize หรือ hard code เองอีกต่อไป
    • ตอนที่ app เป็น full screen อยู่ แล้วใช้นิ้วกวาดไปด้านข้าง จะกลับไปแสดง desktop หรือไป full screen app ที่เปิดอยู่ตัวถัดไปครับ
    • Application หลัก ๆ หลายตัวใน Lion ทำงานได้ใน full screen mode ครับ เช่น Safari, Mail, Ical, Preview, PhotoBooth, iPhoto, iMovie, FaceTime, iWork Apps เป็นต้น
    • Safari มี Reading list เป็น feature ใหม่สำหรับเก็บหน้าเว็บที่อยากอ่านไว้อ่านภายหลังเมื่อมีเวลาว่างแล้วครับ ปัจจุบันมีโปรแกรมเสริมหลายตัวทำตรงนี้ให้อยู่ แต่ตอนนี้สามารถทำได้เลยใน Safari ครับ
  • Key Feature#3 - Mission Control:
    • เป็นการแสดงภาพรวมว่ามีไฟล์ หรือ Spaces ใดบ้างที่ทำงานอยู่ รวมไปถึง Dashboard Wiggets ด้วย โดยที่หน้าจอของ Mission Control จะแบ่งเป็นสองส่วน ด้านบน แสดงรายการ Spaces ด้านล่าง แสดงไฟล์ หรือว่าหน้าต่างโปรแกรมในแต่ละ Spaces ที่เราเลือกอยู่ (แสดงผลเหมือน Exposé ครับ)
    • ใน Exposé หน้าต่างโปรแกรมเดียวกันจะจับกลุ่มเอาไว้ข้าง ๆ กัน
    • ระหว่างอยู่ใน Mission Control สามารถกด Quick look ได้ และสร้างหรือจัดการ app ใน แต่ละ Spaces ได้
  • Key Feature#4 - Mac App Store:
    • จาก 6 เดือนที่ผ่านมา Mac App Store กลายเป็นช่องทางในการซื้อ Application สำหรับ Mac อันดับหนึ่ง (แซงหน้าร้านค้าอื่น ๆ เช่น Best Buy หรือ Walmart ใน US)
    • สร้างยอดผู้ใช้ใหม่ ๆ สำหรับนักพัฒนาด้วย เช่น Autodesk Sketchbook Pro ได้ยอดผู้ใช้หน้าใหม่กว่า 1 ล้านคน
    • Mac App Store มีมาใน Lion
    • ถ้าซื้อเครื่อง Mac ใหม่ สามารถโหลด app ที่เคยซื้อเอาไว้มาลงที่ใหม่ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • Key Feature#5 - LaunchPad:
    • หน้ารวม App เหมือนใน iOS สามารถเข้าถึงได้ด้วยการคลิ๊ก icon บน dock หรือการใช้ 4 นิ้วแล้วหุบเข้าหากันบน trackpad
    • สร้าง folder เก็บ app ได้เหมือนใน iOS
    • ทำงาน system wide ครับ เรียกดูเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้
  • Key Feature#6 - Resume:
    • ทำงานด้วยลักษณะที่จะแสดงว่าเราเคยทำอะไรไว้ก่อนที่จะปิด app ไป แม้แต่เลือกข้อความค้างเอาไว้ก็จะกลับมาแสดงหลังจากเปิด app ขึ้นมาใหม่ครับ เคยทำอะไรค้างไว้ หน้าต่างอะไรไว้ตรงไหนจะกลับมาเรียงให้เหมือนเดิมตอนเปิดขึ้นมาใหม่ครับ
    • เป็นระดับ system wide ครับ ทุก app ทำงานแบบนี้เหมือนกัน
  • Key Feature#7 - Auto Save:
    • เลือกได้จาก title bar ในแต่ละไฟล์ว่าจะ lock หรือจะ revert กลับไปสภาพก่อนหน้าได้
  • Key Feature#8 - Versions:
    • เป็นสำเนาไฟล์ที่ auto save สร้างขึ้นมาในช่วงเวลาต่าง ๆ หรือสร้าง snap short ได้
    • ประหยัดพื้นที่เพราะจะจำเฉพาะส่วนที่แตกต่างกันในไฟล์เดิม ไม่สร้างเป็นไฟล์ใหม่ให้เปลืองพื้นที่
    • ถ้าต้องการ share จะเป็นการ share เฉพาะเวอร์ชั่นล่าสุด
    • เหมือน time machine สำหรับไฟล์เอกสารที่ต้องการ
    • ระหว่างอยู่ใน versions เราสามารถนำสิ่งที่อยู่ใน versions ก่อนหน้านี้มาใส่ไว้ใน versions ปัจจุบันได้ด้วยการ copy & paste
  • Key Feature#9 - AirDrop:
    • สร้าง wifi hotspot เอาไว้สำหรับแชร์ไฟล์ผ่าน finder ครับ
    • ไม่ต้อง setup ครับ ถ้าต้องการแชร์ไฟล์ ก็เปิด AirDrop ขึ้นมาพร้อมกันสองเครื่อง แล้วเขาจะ scan เจอกันเองผ่าน wifi
    • เมื่อมีการรับส่งไฟล์ จะมีหน้าต่างยืนยันขึ้นมาเพื่อกดยืนยัน ทั้งผู้รับ และผู้ส่ง เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่ได้รับไฟล์จากผู้ที่ไม่พึงประสงค์
    • ไฟล์จะถูกเข้ารหัสความปลอดภัยไว้ระหว่างที่ถูกส่ง
  • Key Feature#10 - Mail:
    • หน้าตาเหมือนใน iOS ที่จะมีรายการข้อความทางด้านซ้าย และหน้าต่างแสดงเนื้อหาแต่ละข้อความทางด้านขวา
    • แสดง 2-3 column
    • ช่องค้นหามีการแนะนำแบบ interractive ระหว่างที่กำลังพิมพ์ สร้างเงื่อนไขรวมกันในการค้นหาได้ เช่นต้องการค้นหาข้อความจากเพื่อน ที่ส่งมาในอาทิตย์ที่แล้ว
    • มี conversation view แสดงข้อความโต้ตอบเหมือนพิมพ์ chat คุยกัน รองรับ mail จาก platform อื่นด้วย แต่ก็ยังแสดงแบบเดิมได้สำหรับผู้ที่ต้องการ
    • มี favorite bar ด้านบน
    • ระหว่างที่อยู่ใน conversasion สามารถตอบหรือ forward ได้ด้วยการนำเมาส์ไปวางไว้เหนือข้อความ จะมี icon เล็ก ๆ ออกมา
  • ใน Lion มี Windows Migration สำหรับผู้ใช้ windows ที่ต้องการย้ายไฟล์มาเริ่มต้นใช้งานบน Mac เครื่องแรก
  • 3000 APIs ใหม่ สำหรับนักพัฒนา
  • Download only สำหรับ Lion บน Mac App Store
  • ซื้อหนเดียว ติดตั้งได้บนเครื่องที่ Authorize เอาไว้
  • ราคา 29.99 USD (ประมาณเก้าร้อยกว่าบาทครับ)
  • ออกให้ซื้อได้จริงสำหรับผู้บริโภคเดือน กรกฎาครับ

iOS5

  • 200 ล้าน iOS devices อยู่ในตลาดตอนนี้ เป็น No.1 ของ mobile OS (ที่ 44%)
  • 25 ล้าน iPad ถูกขายออกไปในช่วง 14 เดือน
  • 15 พันล้านเพลงถูกขายผ่าน iTunes Music Store
  • 130 ล้าน download ใน iBookstore
  • 425,000 apps ใน App Store
  • 90,000 Apps for iPad
  • 14 พันล้าน app download
  • 225 ล้าน Account ใน App Store
  • 1,500 new APIs
  • Dictionary ตอนนี้ทำงานเป็น system wide แล้ว (ไม่เกี่ยง app เพราะผูกกับ OS เลย)
  • คีบอร์ดบน iPad แยกซ้ายขวาได้แล้ว (เป็น system wide) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพิมพ์ด้วยนิ้วโป้ง
  • AirPlay Mirroring แสดงหน้าจอเหมือนบน iPad ผ่านเข้าทีวี ด้วย Apple TV แบบไม่ต้องใช้สาย
  • iTUnes sync ผ่าน wifi (ก่อน sync จะ backup ก่อนเหมือนที่เคยเป็นอยู่)
  • เพิ่ม core image API บน iOS
  • Key#1 - Notifications:
    • Notification Center (ชื่อใหม่สำหรับระบบแจ้งเตือนนี้) แสดงด้วยการลากน้ิวจากบนลงล่างในหน้าจอเครื่องทำงานปรกติ ที่จะแสดงรายการแจ้งเตือนทุกอย่าง missed call, push notifications, stocks, อากาศ เข้าถึงตอนไหนก็ได้ที่เครื่องทำงานอยู่
    • แสดงขึ้นมาเป็นแถบเล็ก ๆ ด้านบนแล้วหายไปตอนที่ใช้งานอยู่
    • แสดงรายการแจ้งเตือนในหน้า lock screen และสามารถเลือกเข้าไปยังการแจ้งเตือนที่ต้องการได้ด้วยการ slide ที่รายการนั้น ๆ ที่ต้องการ และไปยัง app ที่แจ้งเตือนนั้น ๆ
  • Key#2 - News Stand:
    • App รวม digital magazine ที่มีการสมัครสมาชิก (subscription) เหมือนเป็น iBook สำหรับ digital magazine
    • background download
  • Key#3 - Twitter:
    • รวม Twitter service เข้ากับส่วนต่าง ๆ ของ iOS เช่นการ share ภาพจาก camera, photo app, Safari, Map เข้า twitter
    • Single Sign on, ใส่ชื่อ และรหัส login เข้า twitter account หนเดียวบน iOS และจากนั้น app อื่น ๆ จะมาดึงเอาข้อมูลตรงนี้ไปใช้ ทำให้เราไม่ต้อง sign in อยู่เรื่อย ๆ ในหลาย ๆ app เหมือนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
    • ดึงภาพจาก twitter account มาใส่ใน contact ของเพื่อน ๆ ที่มีอยู่ใน Address Book ได้
  • Key#4 - Safari:
    • 2 ใน 3 ของ mobile web ใช้ safari
    • Safari Reader, ทำงานเหมือน Reader บน Mac คือดึงเฉพาะเนื้อหาที่ต้องการจะอ่าน มาเรียงใหม่ โดยจะดึงเนื้อหาทั้งหมดมารวมไว้เป็นหน้าเดียว (ถ้าต้นฉบับมี content จากหลาย ๆ หน้า ก็จะรวมมาเป็นหน้าเดียวให้อ่านกันด้วย)
    • Email ผ่าน safari จะแสดง link และเนื้อหาใน web ที่อยู่ใน link ด้วย
    • Reading list, เป็นการ save เก็บ link ที่ต้องการจะอ่านภายหลัง (sync ลงเครื่อง Mac/iPhone/iPad เพื่ออ่านต่อภายหลังได้ด้วย)
    • มี Tab แล้ว ลากไปมาได้เหมือน Safari บน Mac และจาก demo การเลือกสลับแต่ละ tab ที่เปิดอยู่ทำได้รวดเร็ว
  • Key#5 - Reminders:
    • App แจ้งเตือน เล็ก ๆ อันใหม่จาก Apple
    • เลือกการตั้งเตือนได้หลายลักษณะ ทั้งเตือนตามวัน หรือเตือนตามสถานที่ (เมื่อไป หรือกลับจากสถานที่นั้น ๆ )
    • การแจ้งเตือนนี้ sync กับ iCal และ Outlook บน windows
  • Key#6 - Camera:
    • เข้าถึง camera ได้จาก lock screen ไม่ว่าจะมี pass code หรือไม่ ถ้าใส่รหัสไว้จะเข้าไปดูภาพก่อนหน้าไม่ได้ แต่ยังถ่ายภาพได้เลยอยู่
    • ใช้ ปุ่มเพิ่มเสียงด้านข้าง เป็น shutter ได้แล้ว
    • มี grid line ช่วยเล็ง และ pinch เข้าออกเพื่อ zoom ภาพได้
    • AE/AF lock ปรับแสงในภาพและ lock แสงได้
    • Edit, Crop, Red Eye remove, One click enhance ภาพได้
  • Key#7 - Mail:
    • Rich Text format
    • ลาก address ระหว่าง bcc, cc ได้
    • flag ได้
    • ค้นหาจากเนื้อหาทั้งหมดใน email ได้แล้ว ทั้งบนเครื่องและบน server
    • บน iPad เมื่อแสดงผลแนวตั้ง สามารถแสดงรายการ email ในด้านข้างได้แล้วด้วยการลากเข้าออกจากขอบจอ
    • Add support สำหรับ S/MIME
  • Key#8 - PC Free:
    • สามารถไม่ต้องใช้ PC/Mac ในการ setup/update อีกต่อไป
    • Over the Air software update.
  • Key#9 - Game Center:
    • 50 ล้าน user ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา
    • แนะนำเพื่อนได้
    • มีแนะนำเกมในแบบที่เราชอบได้
    • ซื้อเกมได้จากใน game center
    • Add support สำหรับ turn-based games
  • Key#10 - iMessage:
    • ส่งข้อความ ภาพ, เสียง, วิดีโอ, contact, ให้ iOS devces ด้วยกันได้ ฟรี และ unlimited
    • มีใบแสดงการตอบรับว่าภาพหรือข้อความถูกส่งไปยังเครื่่องผู้รับแล้ว และถูกอ่านแล้ว
    • แสดงขณะข้อความที่กำลังพิมพ์อยู่
    • push ลงเครื่อง iOS ที่เหลือ เพื่ออ่านต่อ หรือตอบกลับได้บนเครื่องอื่นได้
    • ทำงานได้บน Wifi, 3G
  • SDK สำหรับนักพัฒนาโหลดได้แล้ววันนี้
  • เร่ิม Ship ตอน Fall
  • รองรับ iPhone 3GS, iPhone4, iPad1, iPad2, iPod Touch Gen3,4

iCloud

  • เก็บไฟล์, ภาพ, เพลง, หนัง บน cloud และ sync ทั้ง iOS devices และ Mac
  • ทุกอย่างเป็นไปแบบ automatic
  • Contact, Calendar, Mail, App Store, iBook, Backup เป็น app หลักใน iCloud
  • Calendar แลกเปลี่ยน และ share calendar กันได้
  • ใช้ได้ Free ไม่คิดค่าใช้จ่าย
  • Backup ทุกวัน เปลี่ยนเครื่อง iOS ใหม่ ก็จะโหลดของเก่ามาได้ด้วย
  • Backup รายการที่ซื้อผ่าน App Store, Book Store, device setting และอื่น ๆ ลง iCloud
  • เก็บไฟล์เอกสารใน iCloud และ push ลงเครื่อง iOS ได้ เช่น เอกสารที่สร้างบน pages บน iOS devices ก็จะถูกส่งไปเก็บไว้บน iCloud และ sync ลงเครื่องที่เหลือ
  • APIs เปิดตัวแล้วสำหรับนักพัฒนา
  • ทำงานได้ทั้งกับ iOS devices, Mac และ PC ครับ
  • Photo Stream - sync ภาพจากเครื่องนึง ไปยังอีกเครื่องนึง ผ่าน iCloud บนเครื่อง iPhone/iPad เก็บ 1000 ภาพ, บน iCloud เก็บภาพใน 30 วันล่าสุด และบนเครื่อง Mac/PC เก็บทุกรูป
  • iTunes in the cloud ทุกเพลง ที่ซื้อผ่าน iTunes สามารถเลือก download ลงเครื่องที่เหลือ และ เลือก automatic download ได้
  • Free พื้นที่ 5 GB สำหรับ Mail, Documents และ Backup โดยไม่นับรวมกับ เพลง, app หรือหนังสือที่ซื้อผ่าน iTunes และไม่นับรวมกับ Photo Stream
  • Developer Beta today ยิ้ม
  • iTunes in the cloud เป็น beta โหลดมาลง iOS 4.3 ได้
  • มาช่วง Fall ปีนี้
  • เพลงที่ RIP เอง แล้ว upload เข้า iCloud หรือให้ iTunes จับคู่เพลงที่มีอยู่ใน store ได้ ไม่ต้อง upload และถ้าต้องการใช้ iTunes match ด้วยราคา 24.99 ต่อปี แบบ unlimited songs

Comments

minemind's picture
3876
posts

ขอบคุณฮะ

ขอบคุณฮะ

#1
ikok's picture
10285
posts

ยินดีีฮะ

ยิ้มปากกว้าง

#2
ultraman_kk's picture
57
posts

ดูแล้วก็เปลี่ยนไม่มากเท่าไหร่

ดูแล้วก็เปลี่ยนไม่มากเท่าไหร่นะครับ ขอบคุณครับ

#3
CANLOF's picture
232
posts

โห ขอบคุณมากเลยครับ ละเอียดซะ

โห ขอบคุณมากเลยครับ ละเอียดซะ ตกใจ-1

#4
Nu-eMMa's picture
1837
posts

ขอบคุณค่ะ

ละเอียดเลยค่ะ ^0^

#5
Nannie's picture
600
posts

อยากลอง iOS5

มีความสุข

#6
skywalker's picture
92
posts

ขอบคุณครับ

ชอบคำนี้จริงๆ "ใช้ได้ Free ไม่คิดค่าใช้จ่าย" อิอิ มีความสุข

#7
amorno's picture
4
posts

ละเอียดเข้าใจง่าย

ละเอียดเข้าใจง่าย ขอบคุณมากครับ

#8
CooLMiLK SCAN's picture
152
posts

อยากได้

Lion มี ลูกเล่นเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าไหร่ แต่อยากได้ iOS5 มาก ๆ ๆ อิอิอิ อำนวยความสะดวกขึ้นมากเลยฮะ

#9
sajiro's picture
1179
posts

เห็น iOS5

แล้วอยากจะขอค่า App คืน

ทุกอย่างเริ่มครบ = =''

ปล.ที่ Whatsapp แจกฟรีเพราะ iMessage รึเปล่าน้อ??

#10
happiness's picture
148
posts

ทำให้แมคกับ iDevice

ทำให้แมคกับ iDevice น่าใช้ขึ้นเยอะเลยครับ
คนทำงานน่าจะถูกใจ Versions, Mission Control บน Lion /ค่าอัพเกรด OS แค่ 900 บาทนี่ไม่ต้องคิดเลยครับ คุ้ม
ส่วน iOS5 ก็เติมเต็มหลายๆสิ่งที่กั๊กๆไว้ อย่างไอ้ใช้ปุ่มโวลุ่มเป็นชัตเตอร์เนี่ย ถูกใจที่สุด 55
แล้วก็อยากรู้ว่า iCloud จะให้เมล์นามสกุล .me ด้วยหรือเปล่า ไหน MobileMe ก็จะเลิกแล้ว อยากได้มากครับ เก๋ดี

#11
aircadet46's picture
59
posts

เปลี่ยนน้อยจัง

งานนี้เปลี่ยนน้อยมากครับ

#12
pippo's picture
2469
posts

คุณก๊อกครับ

ตรงคำว่า

Install in place
All your authorized Macs

ผมเข้าใจแบบนี้ถูกหรือไม่ครับ ว่า
ถ้าผมเป็นเจ้าของเครื่องมากกว่า 1 ตัว ใช้ Apple ID ตัวเดียว
ซื้อครั้งเดียว สามารถติดตั้ง Lion เครื่องที่ 2 ได้ใช่ไม๊ครับ (ไม่ต้องเสียตังค์ 2 ครั้ง)

#13
ikok's picture
10285
posts

ผมคิิดว่่่า

น่าจะใช่นะครับ ทำให้ไม่ต้องโหลดหรือว่าซื้อสองรอบ ในกรณีที่มีมากกว่า 1 เครื่องที่ใช้งานได้ทีละเครื่องไม่พร้อมกันน่ะครับ (อันนี้เดานะครับ หารายละเอียดแบบเฉพาะเจาะจงไม่ได้เหมือนกันครับ)

หรืออาจจะไม่มีแบบ family pack แล้ว? แห่ะ ๆ 1

#14
Sagittarius's picture
128
posts

ขอบคุณมากๆเลยครับ.

ขอบคุณมากๆเลยครับ.

#15
palmania's picture
190
posts

หุหุ

ขอบคุณครับ
แปลมาให้เลย ไม่ต้องเสียเวลาอ่าน

#16