iPad: รีวิวการใช้งานจริง (ข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ)

หลังจากที่ได้ใช้งาน iPad 3G+ WiFi มาเป็นระยะเวลาเกือบเดือนเต็มนี้ ผมคิดว่าน่าจะเขียนรีวิวการใช้งานจริงทั่วไปสำหรับผู้ที่กำลังสนใจให้ได้อ่านกัน เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ

ก่อนเริ่ม

Apple วางตัว iPad นี้เอาไว้ให้อยู่ระหว่าง iPhone กับ MacBook ครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชวนให้สับสนสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้งาน iPad อยู่พอสมควร เดี๋ยวจะต่อประเด็นนี้ในตอนท้ายนะครับ

เหตุผลแรกเริ่มก่อนตัดสินใจซื้อ

เหตุผลหลักที่ผมต้องการซื้อ iPad มาใช้แรกเริ่มเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บหรือ application ครับ คือผมคิดแค่นี้ก่อนจริง ๆ เพราะถ้าผมต้องการจะทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับ iPad แล้ว ผมจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์นี้สำหรับทดสอบ ส่วนที่เหลือเป็นผลพลอยได้ที่ตามมา ผมคิดในตอนแรกว่า ถ้าซื้อมาแล้วผิดหวัง ผมก็จะขายต่อครับ

หลังจากได้เครื่องมาแล้ว....

การใช้งานทั่วไป

• Internet, Social Networking, Email
• Music/ Podcast
• Presentation
• Reading
• Self Study
• Art
• Game

การใช้งานเฉพาะทาง

• พัฒนาเว็บ - อยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่นัก แต่ก็ได้ไอเดียอะไรหลายอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการทำเว็บไซท์
• ออกแบบ Application - ยังไม่เริ่มครับ

ที่ผมจะเขียนต่อไปนี้เป็นเกี่ยวกับการใช้งานทั่วไป มีเปรียบเทียบกับการทำงานแบบเดียวกันบน iPhone บ้าง แยกตามหัวข้อข้างต้น และลึกลงในรายละเอียดครับ

Internet

ชีวิตผมผูกติดอยู่กับ Internet ค่อนข้างเยอะ อย่างน้อยก็ดูแลเว็บ มมม. และ blog ตัวเอง และประสานงานกับต่างประเทศผ่าน Email เป็นหลัก

ก่อนที่ผมจะได้ iPad ผมใช้งานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่บน iPhone ที่บ่อยครั้งผมพบว่า ด้วยขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้การใช้งานบางอย่างมีขีดจำกัด และ iPad มาลบข้อจำกัดตรงนี้นี้ลงไปได้ด้วยเรื่องของขนาดหน้าจอ

Social Network

การใช้งานด้าน Social Network ของผมบน iPad นั้นใช้ทั้ง Application และ ผ่าน Safari Browser สลับกัน ผมใช้ทั้ง Facebook, Twitter เป็นหลักในชีวิตประจำวันครับ Facebook ยังไม่มี App สำหรับ iPad ผมเลยอาศัยเข้าทาง Safari แทน ส่วน Twitter ผมใช้งานผ่าน Twitter for iPad ที่เพิ่งออกมาให้โหลดเมื่อไม่กี่วันมานี้ และทำออกมาได้ค่อนข้างน่าตื่นตาตื่นใจครับ

เรื่องนี้ระหว่าง iPhone กับ iPad ผมไม่พบความแตกต่าง นอกจาก app บางตัวบน iPad (เช่น twitter app) ที่ทำออกมาให้ดูน่าใช้กว่าบน iPhone

Email

ผมมีหลาย Email account และตอนที่เขียนอยู่นี้ตัว iOS4.2 ยังไม่ออก ซึ่งถ้าออกมาแล้วก็จะมี feature ที่เรียกว่า Universal inbox ที่จะรวมอีเมล์เข้าเป็น inbox เดียว ทำให้สะดวกในการจัดการอ่านหรือรับรู้อีเมล์ได้ง่ายขึ้น

ผมเจอปัญหาบางอย่างในการ setup email account บน iPad แต่ตอนนี้จัดการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว (ทาง Apple เองก็โพสเอกสารเกี่ยวกับการแก้ปัญหา Mail app บน iPad เอาไว้ ที่นี่ ด้วยครับ)

การใช้ iPad สำหรับงานเกี่ยวกับ Internet นั้นค่อนข้างเป็นจุดที่ทำให้ผมพอใจ (ถึงพอใจมาก) ตรงที่สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลหรือจัดการ Email ได้แทบจะทันทีครับ

โดยทั่วไปการใช้งาน Email ระหว่าง iPhone กับ iPad นั้นไม่แตกต่างกัน แต่บน iPad ให้พื้นที่ทำงานมากกว่า และสะดวกกว่าในการดูไฟล์ประกอบครับ

Music/Podcast

ผมเปลี่ยนจากฟังเพลง/podcast จากบน iPhone มาเป็นฟังบน iPad แทน แรก ๆ ก็สับสนครับจะคอยปรับ setting บน iPhone อยู่เรื่อย ข้อนี้ผมไม่พบความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างการฟังเพลง/podcast บน iPhone กับ iPad

จะมีบ้างที่ smart playlist ทำงานขาด ๆ เกิน ๆ บน iPad ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เกิดบน iPhone ครับ

แต่ที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือการดู video podcast ครับ ยิ่งถ้าเป็นพวก how-to podcast ด้วยแล้ว ดูบน iPad ให้ความกระจ่างกว่า เพราะขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าบน iPhone ครับ ใครมี Video Tutorial เยอะ ๆ น่าจะชอบตรงนี้ (ผมมี .. เยอะเลย )

Presentation

การใช้ iPad ในการนำเสนองานหรือแสดงอะไรสักอย่างให้กับบุคคลอื่นให้ได้รับทราบนั้น ผมพบว่าเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งในการใช้งาน iPad ครับ

การ presentation นี้ไม่ได้นับเฉพาะกับการแสดงไฟล์ powerpoint หรือ keynote เท่านั้น แต่รวมไปถึงการนำเสนอด้วยไฟล์ภาพ หรืออื่น ๆ เพื่อประกอบการสนทนาด้วย ผมพบว่า มี iPad อยู่กับมือแล้วคุยอะไรได้ง่ายขึ้น (ถ้าเตรียมข้อมูลมาดี ๆ )

เกี่ยวกับการใช้งาน Keynote หรือ Powerpoint นะครับ ผมมีงาน keynote ที่ทำอยู่แล้วบนเครื่อง Mac พอนำเข้ามาเปิดใน Keynote for iPad แล้ว ขนาดตัวหนังสือหรือว่ากราฟจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่สามารถปรับเอาได้บน iPad ทีหลัง แต่การจะทำงาน keynote ทั้งหมดบน iPad เลยนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ครับ แต่ไม่สะดวกเท่ากับการทำให้เสร็จก่อน แล้วนำเข้ามาใน iPad ทีเดียว

การนำไฟล์ keynote เข้า iPad มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ชาร์จ 3d จะถูกทำให้เปลี่ยนเป็น 2d หรือ font บางตัวไม่มีบน iPad ครับ

การ import powerpoint เข้ามาใน keynote บน iPad นั้น เท่าที่ผมทดสอบกับไฟล์ต้นฉบับที่ทำจาก powerpoint 2003 บน PC เมื่อนำเข้ามา animation หรือ mask บางส่วนของภาพจะ mask ขาด ๆ เกิน ๆ และไฟล์ภาพประกอบ + font บางอันหายไป (font เปลี่ยนนี่ผมพอทำความเข้าใจได้ แต่อยู่ดี ๆ ไฟล์ภาพหายไปนี่ ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ) ผมคิดว่า ถ้าเป็นไฟล์ powerpoint ง่าย ๆ ไม่มี animation หวือหวา หรือ font เฉพาะกิจ น่าจะนำเข้ามาเปิดใน keynote บน iPad ได้กว่า 80% ของตัวไฟล์ครับ

ตรงนี้ทำให้ผมเห็นข้อจำกัดของ iPad เกี่ยวกับการนำไฟล์ keynote/powerpoint เข้ามาเปิด ถ้าให้ผมแนะนำคือ ทำให้เสร็จบนเครื่อง แล้วค่อยนำเข้า iPad ครับ จากนั้นค่อยแก้เป็นจุด ๆ ไปจากบนเครื่อง แล้วนำเข้า iPad อีกทีจนกว่าจะได้ผลลัพท์ที่พอใจ หรือไม่เพี้ยน (จะแก้ใน iPad ต่อจนสุดท้ายเลยแล้วค่อย export กลับไปบนเครื่องก็ได้ครับ)

เป็นเหมือนการทำงานทางเดียว คือจาก เครื่องตั้งโต๊ะ/โน๊ตบุค -> iPad ซึ่งถึงเราจะ export งานจากใน iPad เพื่อนำกลับมาเปิดบนเครื่องได้ แต่ก็อีก ที่จะมีบางส่วนของไฟล์ที่หายไปจากการ export ครับ

ในช่วงสองอาทิตย์แรกที่ผมมี iPad อยู่กับตัว ผมทำการนำเสนองานในลักษณะต่าง ๆ ทั้งอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ทั้งในห้องประชุม เรื่อยไปจนถึงในร้านเบียร์ รวมประมาณเกือบ 10 ครั้ง มีหนึ่งในนั้นที่มีคนเสนองานให้ผมครับ

ลองคิดว่า iPad น่าจะเพิ่มโอกาสในการนำเสนองานให้ได้มากกว่าเดิมหลายเท่า ในลักษณะที่ notebook เดิมทำไม่ได้ หรือทำได้ แต่ไม่ค่อยจะมีใครอยากหยิบ notebook ออกมากางคุยกันในสถานที่ ๆ ไม่เอื้ออำนวย

Reading

หลายคนคงเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับ DIgital magazine ที่ทำบน iPad กันไปบ้างแล้ว ตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจครับ เป็นการทำหนังสือในรูปแบบที่ไม่ค่อยมีกันมาก่อน เป็นการรวมกันระหว่างข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหว หรือเนื้อหาที่ไม่อยู่นิ่ง และการมีปฎิสัมพันธ์กับผู้ใช้

เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ เกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้ และการบริโภคสื่อในปัจจุบัน

ส่วนที่เหลือ ผมใช้งานเกี่ยวกับการอ่านข่าว และรับ RSS Feed วันละกว่า 250 feed ต่อวัน (ผมอ่านไม่หมด แต่ก็เลือกอ่านได้ง่ายขึ้นบน iPad ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดจะทำบน iPhone เพราะจอเล็ก และอ่านลำบากครับ)

iPad เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักการอ่านครับ ไม่จำกัดว่าต้องเป็น ebook เพียงอย่างเดียว จะเป็นอะไรก็ได้ เพราะหน้าจอที่ใหญ่กว่า ได้พื้นที่การอ่านมากกว่า และตัวหนังสือใหญ่ ชัดเจนกว่าอ่านบน iPhone

ผมเชื่อว่าผู้ใช้ iPad หลายคนนำตรงนี้มาใช้ และผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เติมเต็มช่องว่างสำหรับผู้ที่อยากจะอ่านข่าวหรือ RSS Feed ได้ดีพอสมควร ตั้งแต่ได้ iPad มา ผมทันโลกขึ้นในอีกหลาย ๆ มิติครับ

Seft Study

เกี่ยวกับการออกแบบที่เกี่ยวกับ iPad ผมชอบงานออกแบบของ Apple ทั้ง Hardware, Software ครับ อันนั้นเป็นเรื่องนึง และอีกประเด็นที่ตามมาคือ ผมรู้สึกสนุกในการที่ได้เห็น developer นำสิ่งที่มีอยู่มารวมกันให้เกิดเป็นอะไรใหม่ ๆ เป็นโปรแกรมที่นำสิ่งน่าเบื่อที่มีอยู่เดิม มาทำเป็นสิ่งที่น่าสนใจและใช้งานได้ง่ายขึ้น

การได้เรียนรู้ตรงนี้เป็นสิ่งที่สามารถนำไปเป็นไอเดียในการทำอย่างอื่นได้ ผมคิดแบบนั้น

และการได้เรียนรู้จากการอ่าน การพัฒนาแนวความคิดจากบทความที่ผมได้อ่านในแต่ละวัน หรือข้อมูลที่ได้จากการ research บน iPad

ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า และเกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรกจากเดิมที่กะว่าจะขายต่อ เป็นเก็บเอาไว้ ใช้เรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม

Art

มีบางโปรแกรมเอาไว้วาดรูป หรือสเก็ตช์งานคร่าว ๆ ได้ ผมกำลังหัดใช้งานอยู่ครับ ค่อนข้างสนุกทีเดียว ยังวาดไม่ถึงไหนเลย แต่ชอบตรงนี้ครับ

Game

ผมไม่ค่อยได้เล่นเกม แต่ใครได้ดู demo game ของทาง Epic ในงาน media Event ที่เพิ่งผ่านไป คงจะเห็นได้ว่า iPad นั้นรองรับการแสดงผลที่ตระการตาไม่น้อยหน้าไปกว่า mobile platform อื่น ๆ เลย

ผมมีเกมติดเครื่องเอาไว้สิบกว่าเกม เล่นบ้างตามสมควรทั้งที่บ้าน หรือตอนพักระหว่างทานข้าวเที่ยงกับเพื่อนที่ทำงาน เป็นสิ่งที่ฆ่าเวลาได้ดีครับ มีหลายเกมที่ทำออกมาดี ถึงดีมากบน iPad ถ้าใครเล่นเกมบน iPhone แล้วอยากได้จอใหญ่ ๆ เอาไว้บ้าง iPad น่าจะเป็นคำตอบครับ

สรุป, โน๊ต, หมายเหตุอื่น ๆ (สุ่มตามที่จะนึกออกตอนนี้)

• application ทั้งหมดที่ทำงานบน iPhone สามารถใช้งานบน iPad ได้ แต่จะมีขนาดเท่าหน้าจอ iPhone เดิมครับ ถ้าต้องการใหญ่กว่านั้น สามารถเบิลความละเอียดมาให้เต็มจอ iPad ได้ แต่จะเห็น pixel แตก ๆ เพราะต้นฉบับ application ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับขนาดหน้าจอของ iPad เว้นเสียแต่ว่า app นั้นจะมี version สำหรับ iPad ด้วย ที่แสดงผลได้เต็มจอครับ
• app เดียวกันทั้ง iPhone กับ iPad จะมีสิ่งที่แตกต่างกันในเรื่องของการออกแบบ ถึงจะเป็น app เดียวกัน แต่หน้าตาหรือ feature บางอย่างจะไม่เหมือนกันก็ได้
• มี app เฉพาะบน iPad เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
• app บน iPad เฉลี่ยราคาแพงกว่า iPhone app ในชื่อเดียวกัน
• แบตฯ อยู่ได้นานพอสมควร ผมเล่นทั้งวัน แบตฯ ลงมาประมาณ 50% (หน้าจอความสว่างที่ 30-50%) และชาร์จค่อนข้างนาน
• การตอบสนองของหน้าจอสัมผัสดีครับ (ดีกว่า iPhone 3G ที่ผมใช้อยู่เยอะมาก )
• หน้าจอกระจก สะท้อนไฟแยงตา ถ้านำมาใช้งานในตัวอาคารหรือออฟฟิศ
• ลำโพงติดเครื่องให้เสียงดังดี เมื่อเทียบกับขนาดช่องเล็ก ๆ ของตัวลำโพงเอง
• ดู video จาก youtube ไม่ค่อยติด ไม่รู้ทำไมครับ แต่ผมเดาว่า video ของ youtube เป็น HD ที่ขนาดเครือข่าย 3G สิงคโปร์ว่าดีแล้ว ยังติด ๆ ดับ ๆ เลย ถ้าใครอยากดู video บน youtube หรือ service อื่น มองข้ามเรื่องการดูผ่านเครือข่ายมือถือไปเลยครับ
• iPad เป็นการสนับสนุนเครื่อง notebook ที่มีอยู่เดิม มากกว่าเป็นอุปกรณ์ที่จะมาแทนที่ ถ้าเรามองในลักษณะนี้ เราจะใช้งานอุปกรณ์ที่เรามีได้เต็มที่มากขึ้น
• iPad ทำได้มากกว่า iPhone แต่น้อยกว่า MacBook ตามที่ Apple วางตำแหน่งเขาเอาไว้ และเป็นไปตามนั้นครับ ถ้าคุณมอง iPad ในความเป็นอุปกรณ์ computer คุณจะพบว่าเขาบกพร่องอยู่หลายอย่างทำได้อย่างละนิดอย่างละหน่อยถ้าเทียบกับเครื่องตั้งโต๊ะ หรือ โน๊ตบุคที่คุณมี แต่ถ้ามองว่าเขาเป็น mobile internet device แล้ว เขาตอบสนองคุณได้มากกว่า iPhone ครับ
• ผมไม่ได้ทดสอบดูหนัง เพราะว่าไม่มีหนังเก็บเอาไว้ในเครื่องครับ มีแต่ไฟล์ Video podcast เป็น howto การเขียนเว็บ ผมพบว่าหน้าจอที่ใหญ่ทำให้เห็นอะไรได้ง่ายเข้า อย่างน้อยถ้าจะเอาไปดูหนัง ก็เห็นเต็มตากกว่า iPhone แน่ ๆ ครับ

หมดแล้ว คร่าว ๆ มีเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ